โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่
Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึก
Move to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่
Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
All = พิมพ์ทั้งหมด
Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริง
Web Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำ
Work Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพ
เมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
เมื่อต้องการปรับแต่งการทำงานทั่วไปของ Interner Explorer จะต้องทำการเลือกเมนูดังนี้ Tools à Internt Options
การปรับแต่งทั่วไป (Genetal)
การปรับแต่งการทำงานทั่วไปของ Interner Explorer สามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
การกำหนดการเปิดหน้าของเว็บเพจ(Web Page) แรกเมื่อมีการเรียกใช้โปรแกรมInternet Explorer
ส่วนที่ 2 Temporary Internet Files
กำหนดพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ที่ Internet Explorer เพื่อใช้ในการบันทึกเว็บเพจที่เคยไปเยี่ยมชมแล้ว เมื่อต้องการเรียกใช้เว็บเพจนั้นอีกก็สามารถดึงมาใช้ได้ทันที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอเพื่อโหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ทำหน้าที่เสมือนหน่วยความจำชั่วคราวสำหรับเรียกใช้เว็บเพจได้อย่างรวดเร็ว ทางเดินเทคนิคเรียกว่า แคลช : Cache
หมายเลข 1 กำหนดวิธีการทำงานของแคลช (Cache)
Every visit the page : เป็นการสั่งให้ Explorer ตรวจสอบว่าเว็บเพจที่เราเปิดดูเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยบันทึกไว้ในแคช (Cache)หรือไม่ ทุกครั้งก่อนนำมาแสดง
Every time you start Internet Explorer : ทุกครั้งที่เรียกใช้โปรแกรม Explorerเพื่อเรียกดูเว็บเพจ Explorer จะนำเว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ในแคลช มาแสดงทันที โดยไม่ตรวจสอบว่าหน้าเว็บเพจได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ วิธีนี้ทำให้เรียกใช้เว็บเพจนั้นรวดเร็วกว่าวิธีแรก
Automatically : กำหนดให้ Explorer ตรวจสอบว่าเพจที่เปิดดูว่าเปลี่ยนไปจากที่บันทึกไว้ในแคลช (Cache)หรือไม่ แต่ถ้าพบว่าเว็บเพจนั้นไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ได้บันทึกไว้ ก็จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเว็บนั้นน้อยลง วิธีนี้ทำให้สามารถเปิดดูเว็บเพจที่เคยเปลี่ยนแปลงของเว็บเพจนั้นน้อยลง วิธีนี้ทำให้สามารถเปิดดูเว็บเพจที่เคยเปิดดูแล้วได้อย่างรวดเร็ว
Never : กำหนดให้เมื่อเปิดดูเว็บเพจที่เคยเปิดดูแล้ว ให้ Explorer นั้นที่บันทึกไว้ในแคลช (Cache )มาแสดงทันที ถ้าเว็บเพจมีการเปลี่ยนแปลงหน้านั้นจะไม่ถูกนำมาแสดงให้เห็นวิธีนี้ทำให้สามารเปิดดูเว็บเพจที่เคยเปิดดูได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่อาจไม่แสดงเว็บเพจล่าสุดให้เห็น
หมายเลข 2 กำหนดพื้นที่ในฮารดดิสก์สำหรับใช้ในแคลช (cache)
หมายเลข 3 ย้ายตำแหน่งเก็บโฟลเดอร์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
หมายเลข 4 ดูไฟล์ทั้งหมดที่ได้บันทึกเก็บไว้ในแคลช (cache)
หมายเลข 5 ดูรายชื่อของออบเจกต์ต่าง ๆ ที่ถูกโหลดมาเก็บในแคลช (cache)
ส่วนที่ 3 History
การบันทึกประวัติของการเข้าไปใช้งานในเว็บเพจต่าง ๆ นั้น จะได้ทำการบันทึกว่าในแต่ละวันเคยเข้าใช้งานเว็บเพจใดบ้าง ก็สามารถค้นดูได้จากประวัติการใช้งาน หรือ History นั่นเองเราสามารถกำหนดจำนวนระยะเวลาในการบันทึกประวัติการใช้งานของเว็บเพจได้จาก Imtermer Options ในส่วนของ History โดยจะกำหนดจำนวนเวลาในการบันทึกประวัติการใช้งานไว้ที่ 20 วัน แต่ละจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามที่เราต้องการ
Clear Histoy เมื่อต้องการลบประวัติการใช้งานเว็บเพจต่าง ๆ ให้คลิกที่ปุ่มนี้ ประวัติการเข้าไปใช้งานในเว็บเพจต่าง ๆ ในแต่ละวันจะถูกลบออกไปจากหน่วยความจำของเครื่องทันที
ส่วนที่ 4 ปรับแต่งรายละเอียกต่าง ๆ
Colors… การกำหนดสีพื้นหลัง สีข้อความปกติ สีข้อความที่ใช้ในการเชื่อมโยง (Link)และข้อความที่เป็นต-แหน่งของการเชื่อมโยง (Link)ที่เคยเปิดดูแล้ว
Fonts…การกำหนดรูปแบบของตัวอักษรที่ใช้
Languages… กำหนดภาษาที่ใช้ โดยปกติภาษาที่ใช้ คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษและสามารถเพิ่มเติมรูปแบบภาษาได้ โดยเลือกที่ปุ่ม Add จะมีรูปแบบภาษาต่าง ๆ ให้เลือกอีกมากมายที่สามารถจะเลือกเพิ่มเติมอีกได้
Accessibility….กำหนดการแสดงผลให้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการใช้สายตา โดยสั่งให้ Explorer ไม่แสดงเว็บเพจตามรูปแบบตัวอักษร และขนาดตัวอักษรใหม่ที่ช่วยให้อ่านง่ายขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น